วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2555

Palawan of philippines สวยโคด

Palawan of philippines สวยโคด


      ปาลาวัน เป็นหมู่เกาะที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในฟิลิปปินส์ มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวธรรมชาติทั่วโลก ท้องทะเลที่สวยงาม บนหาดทรายขาวสะอาดเป็นเอกลักษณ์ และยังเป็นเป้าหมายหลักของนักดำน้ำ เพื่อดูปะการังและสัตว์ต่างๆ ใต้ท้องทะเลอีกด้วย

        ปาลาวันจะมีสนามบินอยู่ 2 แห่งคือ Busuanga และ Puerto princesa ซึ่งบางทีเราเรียกว่าเกาะเหนือกะเกาะใต้  สถานที่ที่เราจะไปกันทริปนี้คือ Busuanga ออกเสียงว่า บูสวังก้า 



         เรามีนัดหมายกันวันที่ 16 ตุลาคม เวลาสิบโมงเช้าที่สนามบิน  เราต้องออกจากที่พักประมาณ 6.30 น. โดยใช้เวลาจากบ้านพักที่เราอาศัยอยู่ผ่านการจราจรที่แออัดของมะนิลาเกือบๆ สามชั่วโมง ในที่สุดเราก้อมาถึงสนามบินเวลา 9.45 น.  หลังจากทักทายกับผู้คนที่จะเดินทางร่วมกันในทริปนี้พอหอมปากหอมคอ ก้อต้องไปเช็คอินที่เค้าเตอร์


           บนหน้าจอมอนิเตอร์ได้แจ้งถึงสถานที่ที่เครื่องบินจะไปลงในครั้งนี้คือ บูสวังก้า  เราใช้เวลาเช็คอินไม่ถึงสิบนาทีก้อเสร็จเนื่องจากผู้คนที่จะไปไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ คิดว่าไม่น่าเกินสามสิบคน


           เครื่องบินที่เราใช้ในการเดินทางครั้งนี้เป็นเครื่องบินไบพัด



        สายการบินที่บินไปปาลาวัน จะมีอยู่สองสายการบินคือ ซีบูแปซิฟิค กะ แอร์ฟิลเอ็กซเพรส  ใช้เวลาในการเดินทางจากสนามบินไปถึงปาลาวัน ประมาณหนึ่งชั่วโมง ในช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องบินเราได้เห็นสภาพหมู่เกาะต่างๆ ในฟิลินปินส ตามในรูปด้านล่างนะครับ  ไม่รู้จะอธิบายยังไง สวยโคด





             มาดูสภาพสนามบินที่เราเดินทางมาถึง เป็นสนามบินเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก พอดูอบอุ่นไม่วุ่นวาย เป็นสนามบินที่ก่อสร้างร่วมกับประเทศเกาหลี


              หลังจากเรารับกระเป๋าและสัมภาระต่างๆ ก้อผ่านการเข้าสู่เมือง Coron ได้แล้ว เคยไปเกาะ Cebu ของฟิลิปินสมาก่อน เราก้อจินตนาการว่า หลังจากออกจากสนามบินก้อคงเดินทางตามถนนลาดยางเข้าสู่ที่พัก  แต่ที่นี่กลับไม่เหมือนแบบนั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิง  ที่นี่เมื่อผ่านออกจากสนามบินก้อจะเป็นดินลูกรัง เดินทางไปยังท่าเรือต่อไปยังเกาะอีก



         รถจากสนามบินเดินทางมายังท่าเรือที่จะข้ามไปยังเกาะ โอ้วพระเจ้า อะไรจะ unseen ขนาดนี้ระหว่างทางที่นั่งบนรถที่วิ่งไปด้วยความเร็วไม่มากเนื่องจากเป็นถนนลูกรัง เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้เราคิดถึงเรื่องการจับเป็นตัวประกัน เข้าจัยเลยว่าบรรยากาศคงจะแบบนี้แหละ



        สภาพท่าเรือที่จะเราจะนั่งเรือต่อไปยังเกาะ  เป็นท่าเรือที่ไม่ใหญ่มากสองฟากฝั่งเป็นต้นโกงกางที่อุดมสมบูรณ์มาก


         จากสภาพเรือแล้ว ดูดีมีชาติตระกูลเลยทีเดียว ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วไม่เคยนั่งเรือแบบนี้มาก่อนด้วย ถูกใจเสียเหลือเกิน
   


           ระหว่างอยู่ในเรือก้อชมสภาพบรรยากาศ ของท้องทะเลฟิลิปินส  ได้เห็นบ้านเรือนของชาวประมง ซึ่งจะเห็นว่าทุกบ้านจะมีคอกหมู และเลี้ยงกันอยู่ประมาณตัวสองตัว




          ใช้เวลาเดินทางประมาณสี่สิบห้านาที เราก้อมาถึงเกาะที่เราจะพักกันแล้ว  สภาพหาดทรายแล้วน้ำเหมือนในรูปที่เราเห็นตอนนั่งเครื่องบินเลยคับ  พอเรือมาถึงก้อมีคนมาต้อนรับอย่างน่าอบอุ่น



          
                เจ้าหน้าที่ได้ต้อนพวกเราไปยังพื้นที่รับรอง  มีเวลคัมดริ้งและดนตรีปลอบปะโลมพวกเราอย่างน่าแปลกจัย


 
              มาถึงแล้วคลับพาราไดส์ ผู้คนไม่พลุกพล่านพอมีประปรายทำให้เรามีความรู้สึกว่าเหมือนมาเกาะส่วนตัวยังไงไม่รู้  หลังจากผ่านขบวนการนี้เจ้าหน้าที่ก้อมาทำการอธิบายกำหนดการต่างๆ และแจกกุญแจห้องให้พวกเราไปพักผ่อนกันสักครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นพวกเราก้อจะเข้าห้องสัมนาเพิ่มเติมความรู้กันหน่อยครับ



         ห้องพักที่ผมไปพักก้อจะเป็นห้องสองเตียงนอน เปิดแอร์เย็นเฉี๊ยบ  หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จสับพวกเราก้อเตรียมไปสัมนากันต่อ

       
               พวกเราเลิกสัมนากันตอนทุ่มกว่าๆ ก้อออกมาทานข้าวเย็นกัน ผมเซอร์ไพรสมากคับเพราะวันนี้เราจะกินข้าวเย็นกันกลางชายหาด ภายใต้แสงจันทร์และลมทะเล พร้อมทั้งแสงเทียนที่วางกระจายอยู่ทั่วหาด



            คืนนี้คงดื่มกันตามประสาคนเพิ่งรู้จักกัน พรุ่งนี้พวกเราต้องออกเดินทางไปชมปะการังอีกครังครับ  

            เช้าวันที่ 17 ตุลาคม พวกเราตื่นกันแต่เช้าเพราะวันนี้พวกเราต้องออกเดินทางไปยังเกาะต่างๆ เพื่อชมความสวยงาม ตอนแรกผมคิดว่าคงไปเกาะที่ไม่ไกลจากเกาะที่เราอยู่  ที่ไหนได้  ต้องเดินทางไปขึ้นที่ท่าเรือที่เราเดินทางมา ต่อด้วยรถยนตอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปต่อเรืออีกครั้ง  เพื่อไปชมปะการังอีกเกาะ ตอนผมนั่งเรือมาครั้งนี้ผมดันเมาเรือซะงั้นทรมานมากครับเพราะวันนี้คลื่นลมแรงประกอบกับเรือลำเล็กทำให้ผมเมาเรืออย่างแรงจนออกปากว่าผมไม่ไปต่อได้ป่าวขอรอที่ท่าเรือนี้ดีกว่า แต่คำตอบที่ได้มาคือไม่ได้ครับเพราะเราไม่ได้กลับมาที่ท่าเรือเดิมเราจะไปออกอีกท่าเรือเพื่อกลับที่พัก โอ๊ยพระเจ้าเราต้องเดินทางต่อไปเรื่อยๆ อีกเหรอเนี่ย

           สภาพบรรยากาศสองข้างทางในตอนเช้าที่เรือขับผ่าน ต้นโกงกางที่สมบูรณ์ของป่าเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตวน้ำอย่างดี





























        ได้มีโอกาสลงไปดำน้ำอยู่ครั้งนึงอยากบอกว่าสวยโคดๆ อะ นอกจากปะการังแล้วผมยังเห็นปลาตัวเล็กตัวใหญ่ว่ายรอบๆ ปะการังเสียอีกด้วย โอ้ยสวยอะไรเยี่ยงนี้

         ในที่สุดก้อมาถึงคำที่ว่า ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา ดังนั้นวันที่เราต้องกลับก้อมาถึงเลยอยากฝากบรรยากาศที่เหลือมาให้ชมกันครับ

















         อยากฝากข้อคิดหน่อยนะคับ  เพราะก่อนกลับที่สนามบินก้อจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจกระเป๋าอย่างเข้มข้น เราก้อสงสัยว่าทำไมต้องตรวจกันขนาดนี้เพราะกระเป๋าเราจัดไม่ค่อยเป็นระเบียบจับของยัดๆ เข้าไปอายเค้า แต่ก้อเข้าจัยเจ้าหน้าที่แระว่าทำไมต้องตรวจกันขนาดนี้เพราะมีคนจำนวนนึงแอบเอาของติดไม้ติดมือกลับบ้าน ตามในรูปคับไม่รู้จะอธิบายยังไง





    ขอบคุณสำหรับทริปนี้ครับ ที่เปิดโลกในประเทศฟิลิปินสอีกครั้งหนึ่งครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น