เราเริ่มออกจากบ้านเวลาเก้าโมงเช้าตรงเพ๊ะ ไม่ขาดไม่เกิน ขับรถไปตามถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเข้าสู่ดินแดง พอถึงด่านดินแดงก้อจ่ายค่าทางด่วน 45 บาท หลังจากจ่ายตังแล้วให้เดินทางไปตามถนนดาวคะนอง
ขับตรงไปเรื่อยๆ ตามทางที่จะไปดาวคะนอง พอถึงทางแยกดาวคะนองกะสมุทรสาึครให้เดินทางไปตามเส้นทางสมุทรสาคร
เดินทางไปสักระยะ ก้อมีป้ายให้เราเลือกว่าจะไปสมุทรสาครหรือเพชรบุรี พวกเราก้อเลือกเส้นทางตามถนนเพชรบุรี
จอดแวะเติมพลังสักนิดที่ปั๊มปตท ที่ปั็๊๊๊มนี้มีค่ิอนข้างครบทั้งและเป็นปัมขนาดใหญ่ มีทั้งแมค เคเอฟซี ร้านหนังสือ จอดรถพาคุณภรรยาเติมพลังทั้งลูกชิ้นและแดดดี้โดหนึ่งชิ้น
หลังจากเติมพลังเรียบร้อยแล้ว พวกเราก้อเดินทางต่อ พอออกจากปัมไปสักพักก้อจะพบทางแยกเพชรบุรีกะราชบุรี ให้เลือกไปตามทางเพชรบุรีคับ
หลังจากนั้นก้อจะถึงแยกเพชรบุรีกะชะอำให้เลือกไปทางเส้่นชะอำก้อจะถึงแล้วนะคับ นี่ก้อเป็นเส้นทางในการเดินทางไปหัวหินนะคับ
เมื่อเดินทางมาถึง ก่อนที่เราจะเข้าที่พักเราได้แวะเที่ยวที่ พระราชวังมฤคทายวัน ซึ่งรัชกาลที่ 6 โปรดให้รื้อพระตำหนักหาดเจ้าสำราญมาปลูกขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2466 ได้รับขนานนามว่า "พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง"
ลักษณะเป็นพระตำหนักไม้สองชั้น หันหน้าออกสู่ทะเล พระตำหนักฝ่ายในอยู่ปีกขวา ทางปีกซ้ายเป็นส่วนของฝ่ายหน้า ประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์เชื่อมต่อถึงกันโดยตลอด "พระที่นั่งสุนทรพิมาน" เป็นที่ประทับของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระวรชายา "พระที่นั่งพิศาลสาคร" เป็นที่ประทับของพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เป็นหมู่พระที่นั่งตรงกลางประกอบด้วยห้องต่างๆ สำหรับสำราญพระอิริยาบถ ห้องพักข้าราชบริพารที่คอยรับใช้ใกล้ชิด ห้องทรงพระอักษร และ "พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์ " เป็นอาคารโถงสองชั้นเปิดโล่งใช้เป็นที่ประชุมในโอกาสต่างๆ และเป็นโรงละคร ซึ่งเคยจัดแสดงละครครั้งสำคัญ 2 ครั้ง คือ เรื่องพระร่วง และวิวาห์พระสมุทร
![]() |
ประตูทางเข้าสู่พระราชวัง |
หลังจากเดินชมพระราชวังสักพักพวกเราก้อเดินทางเข้าเช็คอินที่โรงแรมก่อนที่เราจะไปเที่ยวต่อ
เพลินวาน
เป็นแหล่งท่องเที่ยวในหัวหินที่จำลองบรรยากาศร้านรวงต่าง ๆ หลากหลายในอดีตมาไว้ในที่แห่งเดียว บริเวณตกแต่งด้วยป้ายโฆษณาย้อนยุค โปสเตอร์หนังยุคมิตร เพชรา และหน้าหนังสือแฟชั่นที่ทำให้หวลนึกถึงความหลัง มีสถานีจัดรายการเพลงเก่าให้เพลิดเพลินตลอดวัน รวมทั้งสามารถถ่ายรูปแบบย้อนยุคกับฉากหลังภาพวาดสถานีรถไฟหัวหินไว้เป็นที่ ระลึก ในวันสุดสัปดาห์มีการจำลองบรรยากาศงานวัด ฉายหนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ และเกมการละเล่นต่าง ๆ ที่น่าสนุกสนาน รวมทั้งยังได้อิ่มอร่อยกับอาหารที่ร้านข้าวอุ่น แกงร้อน ตำรับหัวหิน ร้านขายปลาหวานปิ้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ขนมครก ไอศกรีมแท่ง น้ำมะเน็ด กาแฟโบราณ ฯลฯ
CICADA
ตลาดโต้รุ่งหัวหิน
นับเป็นสีสันยามราตรีของหัวหิน ทุกเย็นมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะเวียนไปเสมอ เพราะเป็นแหล่งรวมแผงอาหารนานาชนิด ทั้งอาหารไทย อาหารทะเล ขนมไทย โรตีแขก ปรุงสดๆ ให้เลือกสรร นอกจากนั้นยังมีของที่ระลึกจำหน่ายมากมาย
จบวันแรกด้วยการกลับไปนอนที่โรงแรมแบบ เมื่อยไปหมด กะว่าพรุ่งนี้จะต้องหาร้านนวดฝ่าเท้านวดซะแว้ว เำพราะปวดขามาก
วันที่สองหลังจากที่เราตื่นมาก้ออาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกเดินทาง สำรวจหัวหินอีกหนึ่งวัน
วัดห้วยมงคล
สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้คือ พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นพลับพลาจตุรมุขสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เดิมมีชื่อว่า พลับพลาสนามจันทร์ ตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พลับพลานี้มีไว้ในการที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯเสด็จประทับทอดพระเนตร กองเสือป่าและลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากสิ้นรัชสมัยของพระองค์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้รื้อถอนมาเก็บไว้ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ต่อมาในปีพ.ศ. 2511 สมัยพันเอกแสง จุลจาริตต์ เป็นผู้ว่าการรถไฟฯได้พิจารณาเห็นว่าควรนำเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของพลับพลา สนามจันทร์มาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่หัวหินเพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การดำเนินการก่อสร้างนี้ใช้ช่างฝีมือคนไทยและได้มีการทำพิธีเปิดพลับพลาซึ่ง ได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ”เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2517 โดยสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวอำเภอหัวหินเป็นอย่างมาก และยังเป็นที่เก็บหัวรถจักรไอน้ำเก่าที่การรถไฟสั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ หัวรถจักรนี้เคยวิ่งให้บริการในเส้นทางรถไฟก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2